วันที่ 6 ก.พ. 2565 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้ตรวจสอบสต๊อกห้องเย็นทั่วประเทศเพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อสุกร และให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดนั้น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ ร่วมกับหน่วยงานเครือข่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัด และเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดสนธิกำลังเร่งตรวจสอบห้องเย็นมาอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. - 4 ก.พ. 2565 ได้ดำเนินการตรวจห้องเย็นสินค้าปศุสัตว์แล้ว 1,303 แห่ง ตรวจพบเนื้อสุกรรวม 24.48 ล้านกิโลกรัม และการตรวจสอบดังกล่าวส่งผลให้ห้องเย็นเข้มงวดในการรับฝากสินค้า ผู้ประกอบการนำเนื้อหมูมาจำหน่ายตามปกติ ราคาเนื้อสุกรจึงเริ่มปรับตัวลดลง
 
เบื้องต้น ทางกรมปศุสัตว์ได้ฟ้องร้องดำเนินคดีแล้วกับ 8 บริษัท ผู้เกี่ยวข้อง 17 ราย ภายใต้พระราชบัญญัติโรคระบาด พ.ศ.2558 และพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 รวมจำนวนเนื้อสุกรที่ถูกอายัดทั้งหมด 1.07 ล้านกิโลกรัม โดยรวมกรณีล่าสุดห้องเย็นใน จ.นครปฐม ที่พบเนื้อและชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง จำนวน 1.04 ล้านกิโลกรัม ขณะที่หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องก็จะได้ดำเนินการใช้กฎหมายต่อผู้กระทำความผิดต่อไป
 
รองโฆษกรัฐบาล ระบุต่อไปว่า จากข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีที่ให้หน่วยงานเครือข่ายเข้มงวดตรวจสต๊อกเนื้อสุกรในห้องเย็นทั่วประเทศ และต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำให้ห้องเย็นทุกแห่งเข้มงวดในการรับฝากสินค้า บริษัทผู้ฝากไม่กล้ากักตุนเนื้อสุกรเพื่อโกยกำไร และนำเนื้อสุกรออกมาจำหน่ายตามปกติ ส่งผลให้ราคาหมูหน้าฟาร์มขณะนี้ปรับลดลง ซึ่งกรมปศุสัตว์รายงานว่า ล่าสุดราคาขยับลงมาที่ 100-104 บาทต่อกิโลกรัม ราคาค้าส่งห้างขายปลีก ลดลงมาที่ 160-166 บาทต่อกิโลกรัม และราคาขายปลีกสำหรับผู้บริโภคลงมาที่ 198-208 บาทต่อกิโลกรัม อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดด้านปศุสัตว์ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225-6888 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ข้อมูล : ไทยรัฐ ออนไลน์